0
โทรหาเรา : 0643366980
ทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 21.00 น
วิธี กิน ยา คุม ฉุกเฉิน 1 เม็ด
Date : 21/04/2024
หลายคนมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการกินยาคุมฉุกเฉินว่าสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างแน่นอน และมักใช้วิธีนี้เป็นประจำ .....

วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด
 

 
หลายคนมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการกินยาคุมฉุกเฉินว่าสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างแน่นอน และมักใช้วิธีนี้เป็นประจำ แต่แท้ที่จริง แล้วยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน เหมาะสมกับกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ซึ่งคำว่า “ฉุกเฉิน” ในที่นี้หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้คุมกำเนิดเพื่อการป้องกันการตั้งครรภ์ หรืออาจเกิดจากการผิดพลาดจากการคุมกำเนิด เช่น การรั่วหรือฉีกขาดของถุงยางอนามัย การลืมรับประทานยาคุมกำเนิดแบบปกติตั้งแต่ 2 เม็ดขึ้นไป หรือการถูกข่มขืน เป็นต้น


การใช้ยาคุมฉุกเฉิน มีวิธีกินอย่างไร?

วิธีการกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินที่ถูกต้องคือ ต้องกินเม็ดแรกให้เร็วที่สุดภายหลังมีเพศสัมพันธ์แบบที่ไม่ได้ป้องกัน ซึ่งควรกินภายใน 72 ชั่วโมง และกินเม็ดที่ 2 หลังจากเม็ดที่ 1 ภายใน 12 ชั่วโมง และไม่แนะนำให้กินเกิน 4 เม็ด หรือ 2 กล่องต่อเดือน ทั้งนี้สามารถกินยาคุมฉุกเฉิน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียวได้ โดยที่ประสิทธิภาพและความปลอดภัยไม่แตกต่างจากการแบ่งกินเป็น 2 ครั้ง แต่อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ง่ายขึ้น
 
 
สำหรับในประเทศไทยจะมียาคุมกำเนิดฉุกเฉินจำหน่ายลักษณะเป็นกล่อง โดย 1 กล่องจะมี 1 แผง แต่ละแผงมียาคุมฉุกเฉิน 2 เม็ด โดยในแต่ละเม็ดประกอบไปด้วยยาที่เป็นฮอร์โมนขนาดสูง ลีโวนอร์เจสเตรล (levonorgestrel) เม็ดละ 750  กรัม
 

ยาคุมฉุกเฉิน มีกลไกการทำงานอย่างไร?

จากการศึกษาพบว่ายาเม็ดคุมกําเนิดแบบฉุกเฉินสามารถยับยั้งหรือทําให้การตกไข่เลื่อนออกไป อย่างไรก็ตามยาเม็ดคุมกําเนิดแบบฉุกเฉินทําให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงอาจทําให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะในการฝังตัวของไข่ที่ถูกผสมแล้ว และอาจมีผลต่อการเดินทางของไข่ที่ถูกผสม
 
 
 
ทั้งนี้ การกินภายหลังตั้งครรภ์แล้วจะไม่มีผลให้เกิดการสิ้นสุดการตั้งครรภ์ หรือไม่เป็นผลให้เกิดการแท้ง เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินเป็นการใช้ยาเพียงระยะสั้น อีกทั้งยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลต่อการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งวิธีป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และสามารถคุมกำเนิดได้ดีที่สุดคือการใช้ถุงยางอนามัย
 

ผลข้างเคียงจากการใช้…ยาคุมฉุกเฉิน

ในบางรายเมื่อใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาจก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ทำให้ประจำเดือนมาเร็วหรือช้าลง บางรายอาจมีอาการปวดท้อง เจ็บคัดเต้านม มีเลือดออกกะปริบกะปรอยหรือมีเลือดออกมากระหว่างเดือน  และหากหลังใช้ยา ประจำเดือนยังไม่มาเกินกว่า 1 สัปดาห์ควรตรวจดูว่าเป็นเพราะตั้งครรภ์หรือไม่ หากสงสัยควรไปปรึกษาแพทย์
 
 
การใช้ยาเม็ดคุมกําเนิดแบบฉุกเฉินอย่างถูกต้องภายหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันการตั้งครรภ์ พบว่ามีอัตราการตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้ร้อยละ 2 ผู้ที่ไม่ได้รับประทานยาเม็ดคุมกําเนิดแบบฉุกเฉินจะมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณร้อยละ 8 หรือกล่าวได้ว่ายาเม็ดคุมกําเนิดแบบฉุกเฉินสามารถลดภาวะเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้เพียงร้อยละ 75 เท่านั้น
 
 
เรียกได้ว่า ยาเม็ดคุมกําเนิดแบบฉุกเฉิน มีประสิทธิภาพต่ำกว่าวิธีคุมกําเนิดแบบปกติทั่วไป ทั้งนี้เนื่องจากอัตราการตั้งครรภ์ในผู้ที่ใช้ยาเม็ดคุมกําเนิดแบบฉุกเฉินจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เริ่มต้นรับประทานยา และช่วงเวลาของการมีเพศสัมพันธ์ว่าอยู่ในช่วงใดของรอบเดือน ดังนั้น ถ้านําเอายาเม็ดคุมกําเนิดแบบฉุกเฉินมาใช้บ่อยครั้ง ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดความล้มเหลวได้ จึงเป็นเหตุผลว่า ทําไมจึงไม่ควรจะนําเอายาเม็ดคุมกําเนิดแบบฉุกเฉินมาใช้เพื่อคุมกําเนิดเป็นประจํา
 
พญ. กุลธิดา ทรัพย์สมุทรชัย

สูตินรีแพทย์

ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลพญาไท 3